วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

โปรแกรมการฝึกทักษะภาษา

โปรแกรม ELLIS



ELLIS เป็นโปรแกรมการเรียนภาษาอังกฤษทผู้เรียนี่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษมากที่สุดในทุกระดับภาษาจากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก การเรียนจะมีลักษณะเป็น interactive multimedia computerซึ่งจะทำให้คุณสามารถเลือกเวลาเรียนที่คุณสะดวกและเลือกระดับภาษาที่เหมาะสมกับตัวคุณได้ด้วยการสอบวัดระดับความรู้ภาษาอังกฤษ โปรแกรม ELLIS นี้ได้รับการพัฒนาจากนักภาษาศาสตร์ีชื่อ Dr. Frank Otto โดยใช้เวลาในการศึกษาค้นคว้าวิจัยเป็นระยะเวลานาน จนพัฒนาซอฟแวร์นี้ให้มีความสามารถทัดเทียมกับการเรียนภาษาอังกฤษในฐานะภาษาที่สอง (English as a Second Language) กับอาจารย์ที่เป็นบุคคล การเรียนผ่าน Interactive Multimedia Computerนี้จะช่วยให้คุณสามารถโต้ตอบกับโปรแกรมได้ นอกจากนี้ยังสามารถเทียบกับเนื้อหาภาษาในโปรแกรมกับเนื้อหาภาษาอังกฤษที่ใช้สอบของสถาบันต่าง ๆ ได้ ้เช่น TOEIC TOEFL โดยเนื้อหาบทเรียนจะแบ่งเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
  • Academic - สำหรับฝึกภาษาอังกฤษทั่วไป มีหลายระดับตามความสามารถของผู้เรียน โดยเริ่มตั้งแต่พื้นฐานจนถึงระดับที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน
  • Business - สำหรับฝึกภาษาอังกฤษเพื่องานธุรกิจโดยเฉพาะ เช่น การรัีบโทรศัพท์ ศัพท์ที่ใช้ในวงการธุรกิจ เป็นต้น
**โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับนักศึกษา คนทำงาน หรือกำลังเตรียมตัวจะไปเรียนต่อหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างสะดวกสบายและได้ประสิทธิภาพภายในระยะเวลาที่จำกัด




ระดับของภาษาในโปรแกรม ELLIS Academic

1. Basic English สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ หรือผู้ที่ต้องการสร้างพื้นฐานของการออกเสียงภาษาอังกฤษให้แน่น โดยจะเน้นที่การฝึกออกเสียงตัวอักษรและการผสมเสียงตัวอักษรให้ถูกต้อง คำศัพท์และประโยคง่ายๆ สำหรับกิจวัตรประจำวัน

2. Intro สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างทักษะการติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน โดยบทเรียนจะเน้นเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิต เช่น การทักทายและสังสรรค์ การสมัครงาน การพบแพทย์ การเดินทาง เป็นต้น โดยในส่วนของไวยกรณ์ จะเน้นที่การสร้างประโยชน์ การใช้คำ article, prepositions, adjectives, adverbs, tense และคำเชื่อมในระดับเบื้องต้น นอกจากนี้จะสอนการเน้นเสียง และระดับของเสียงที่ควรออกสำหรับประโยครูปแบบต่างๆ

3. Middle Mastery จะช่วยให้ผู้ที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับหนึ่งสามารถใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้อย่างมั่นใจ โดยบทเรียนจะครอบคลุมถึงการใช้ vocabulary, adjectives และ adverbs ที่มีความหมายคล้ายกัน แต่มีระดับของการใช้ที่ต่างกัน การสร้างประโยคด้วยหลักการต่างๆ การแสดงความรู้สึก การสร้างบทสนทนายาวๆ และการใช้ภาษาที่มีบริบททางวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การใช้สายตาประกอบคำพูด การให้คำชม วิธีปฏิเสธที่สุภาพ การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัยในอเมริกา และการนัดพบเพื่อนต่างเพศ เป็นต้น

4. Senior Mastery เป็นระดับสูงสุด ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการติดต่อสื่อสารอยู่เป็นประจำ ผู้ที่เตรียมตัวสอบวัดความรู้ภาษาอังกฤษ (เช่น TOEIC หรือ TOEFL) หรือผู้ที่เตรียมตัวไปเรียนต่อหรือทำงานในต่างประเทศ บทเรียนจะครอบคลุมถึงเนื้อหาที่ยากขึ้น เช่น การสัมภาษณ์งาน การสนทนาเชิงธุรกิจ การพูดคุยเกี่ยวกับวรรณกรรม การขอความช่วยเหลือในเรื่องที่ technical เป็นต้น ในส่วนของไวยกรณ์จะครอบคลุมถึงการใช้ clauses รูปแบบต่างๆ การใช้ infinitives, prefixes and suffixes, comparatives และการสร้างประโยคด้วย tense หลายประเภท เป็นต้น นอกจากนี้ จะเน้นการใช้ภาษาอังกฤษที่ต้องคำนึงถึงบริบททางวัฒนธรรมมากขึ้น เช่น การเขียน resume การอธิบายถึงนิสัย ประเด็นที่ควรหลีกเลี่ยงในบทสนทนา การใช้ภาษาที่สื่อเจตนาที่แท้จริงของผู้พูด การใช้ภาษาที่แสดงความมั่นใจ เป็นต้น

5. Placement เป็นข้อสอบเพื่อวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษ โดยแบ่งเป็น Vocabulary, Grammar, Listening ผู้สอบจะรู้ว่าตนเองอ่อนหรือเก่งในส่วนใด ต้องปรับปรุงหรือเรียนอะไรเป็นพิเศษบ้าง หลังจากทำครบแล้ว ผู้เรียนจะถูกโปรแกรมแยกว่า ระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษโดยรวมของผู้สอบต้องไปเรียนในระดับใด (Basic, Intro, Middle Mastery, Senior Mastery)



6. Master Pronunciation เป็นระดับพิเศษ ใช้สำหรับฝึกออกเสียงโดยเฉพาะ เนื้อหาจะแบ่งออกเป็นสองส่วน ใหญ่ๆ คือ Instruction และ Practice
Instruction ประกอบไปด้วยการสอนในเรื่องการออกเสียง (sounds) สระและพยัญชนะภาษาอังกฤษที่ถูกต้องตามมาตรฐานของ American English รวมทั้ง การออกเสียงใน ระดับที่เกินกว่าหน่วยเสียง (Beyond Sounds) เช่น การแบ่งพยางค์
Practice ประกอบด้วย sound contrasts ซึ่งหมายถึงการหัดออกเสียงที่แตกต่างกัน และ Tongue Twisters ซึ่งเป็น การหัดออกเสียงคำ ที่มีลักษณะการออกเสียงคล้ายคลึงกันมากกว่าสองเสียงขึ้นไป นอกจากนี้ในส่วนของการฝึกที่นอกเหนือจากระดับคำหรือ Useful Phrases นั้น ก็จะประกอบไปด้วยการหัดออกเสียงสำนวนพื้นฐานต่างๆ ที่จำเป็น เช่น การปฏิสัมพันธ์กันในวงสังคมการถามเมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับภาษา และ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เป็นต้น




การเข้าใช้บริการโปรแกรม ELLIS ในศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเองของศูนย์ภาษา
  • แจ้งชื่อ-สกุล รหัสนักศึกษา รุ่น/กลุ่ม ของตนให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ภาษาทราบเมื่อใช้โปรแกรมครั้งแรก

url:http:/dit.dru.ac.th/





ไม่มีความคิดเห็น: